ยกเครื่องท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

โดย  ดร.ธนิต  โสรัตน์

รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย

วันที่  19 เมษายน 2559

           

            สงกรานต์ปีนี้ คึกคักทั้งที่อยู่ในช่วงเศรษฐกิจขาลง ถึงแม้อาจหงอยไปกว่าปีก่อนบ้าง เพราะอยู่ในช่วงประหยัดน้ำและคุมเข้มความประพฤติของผู้ที่จะมาเล่นสงกรานต์ แต่บรรยากาศก็ยังสนุกสนานนอกจากเล่นสงกรานต์แล้ว ยังเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนา ทั้งรถทัวร์ รถไฟ เครื่องบิน จองเต็มหมด ประเมินว่าเม็ดเงินหมุนเวียนเป็นหลักแสนล้านบาท อาจช่วยดันเศรษฐกิจได้บ้างโดยเฉพาะในปีนี้เครื่องยนต์หลักด้านเศรษฐกิจไม่ทำงาน

            มีคำถามว่าในระยะยาวการส่งออกของไทยอาจไม่กลับมาขยายตัวได้ดีเหมือนในอดีต จากข้อจำกัดด้านแรงงาน ต้นทุนการผลิต และขีดความสามารถในการแข่งขันที่ลดน้อยถอยลงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศในอาเซียน เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเข้ามาแข่งขันตีเสมอและในอนาคตอาจแซงหน้า ซึ่งภาคบริการท่องเที่ยวอาจเป็นคำตอบได้

            การท่องเที่ยวเป็นภาคส่วนหนึ่งซึ่งไทยมีศักยภาพหากมีการพัฒนาทั้งโครงสร้างอย่างเป็นระบบมาเสริมเป็นรายได้แทนการส่งออกซึ่งอนาคตอาจไม่สดใส ขนาดซึ่งยังไม่ได้ทำอะไรมากนักคาดว่าปีนี้นักท่องเที่ยวจะทะลุ 30 ล้านคน คาดว่าในปี 2560 มูลค่าอาจเพิ่มเป็น 2.5 ล้านล้านบาท ขยายตัวได้ร้อยละ 8.7 ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 1.6 ล้านล้านบาท หรือเท่ากับรายได้จากการส่งออกไปประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปทั้งปีเลยทีเดียว

            ทั้งนี้หลายประเทศในโลกได้ใช้การท่องเที่ยวเป็นยุทธศาสตร์เป็นรายได้หลักของประเทศ เช่น ประเทศแถบยุโรป เช่นประเทศฝรั่งเศส อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ สเปน ฯลฯ รายได้จากการท่องเที่ยวมีมูลค่ามากกว่ารายได้จากภาคอุตสาหกรรม กรณีของไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายติดลำดับโลกหลายแห่ง เช่น พัทยา ภูเก็ต พังงา สมุย ฯลฯ ในด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์แหล่งท่องเที่ยวที่จัดเป็นมรดกโลก เช่น อยุธยา สุโขทัย ขณะที่เชียงใหม่ เป็นเมืองในฝันของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและยุโรป สำหรับ กทม.เป็นสวรรค์ของนักช๊อปปิง อีกทั้งในอนาคตสองสามปีข้างหน้าแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้จะถูกเชื่อมด้วยระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค

            อย่างไรก็ตามการท่องเที่ยวจะต้องมีการปฏิรูปยกเครื่องจัดทำเป็นยุทธศาสตร์เป็นแผนระยะยาวและต่อเนื่อง โดยต้องให้หลุดจากกับดักซึ่งไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวราคาถูกทำให้ได้นักท่องเที่ยวซึ่งไม่ค่อยมีคุณภาพ การที่จะยกระดับการท่องเที่ยวให้เทียบเคียงกับญี่ปุ่นและประเทศแถบยุโรปตะวันตกต้องทำอย่างบูรณาการเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ด้านกระทรวงท่องเที่ยวฯ ควรให้ชัดว่าจะทำเฉพาะท่องเที่ยวเป็นหลักโดยให้ด้านการกีฬาไปอยู่กับกระทรวงวัฒนธรรมหรือกระทรวงศึกษาธิการจะดีไหม ซึ่งการท่องเที่ยวจะต้องยกระดับเทียบเคียงกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้ขับเคลื่อนสร้างรายได้อย่างเป็นระบบ

            ขณะที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวของเอกชนจะต้องยกมาตรฐานของไกด์ รวมทั้งโรงแรม ร้านอาหาร   ร้านขายของ ต้องมีกฎหมายควบคุมทั้งด้านคุณภาพ-มาตรฐาน การไม่หลอกลวงต้มตุ๋นนักท่องเที่ยว อีกทั้งต้องเอาจริงกับไกด์-ทัวร์เถื่อนและนักท่องเที่ยวซึ่งแฝงตัวเข้ามาค้าขายหรือทำตัวเป็น มาเฟียธุรกิจด้านท่องเที่ยวทำให้ไทยเสียชื่อ ซึ่งเรื่องนี้ก็รู้กันดีแต่ก็ยังไม่เอาจริงเอาจัง?..จริงไหมครับ

(สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ทางเว็บไซต์  www.tanitsorat.com หรือ www.facebook.com/tanit.sorat)

*****************************

" />
       
 

ยกเครื่องท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ Share


ยกเครื่องท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

โดย  ดร.ธนิต  โสรัตน์

รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย

วันที่  19 เมษายน 2559

           

            สงกรานต์ปีนี้ คึกคักทั้งที่อยู่ในช่วงเศรษฐกิจขาลง ถึงแม้อาจหงอยไปกว่าปีก่อนบ้าง เพราะอยู่ในช่วงประหยัดน้ำและคุมเข้มความประพฤติของผู้ที่จะมาเล่นสงกรานต์ แต่บรรยากาศก็ยังสนุกสนานนอกจากเล่นสงกรานต์แล้ว ยังเดินทางท่องเที่ยวและกลับภูมิลำเนา ทั้งรถทัวร์ รถไฟ เครื่องบิน จองเต็มหมด ประเมินว่าเม็ดเงินหมุนเวียนเป็นหลักแสนล้านบาท อาจช่วยดันเศรษฐกิจได้บ้างโดยเฉพาะในปีนี้เครื่องยนต์หลักด้านเศรษฐกิจไม่ทำงาน

            มีคำถามว่าในระยะยาวการส่งออกของไทยอาจไม่กลับมาขยายตัวได้ดีเหมือนในอดีต จากข้อจำกัดด้านแรงงาน ต้นทุนการผลิต และขีดความสามารถในการแข่งขันที่ลดน้อยถอยลงเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านและประเทศในอาเซียน เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเข้ามาแข่งขันตีเสมอและในอนาคตอาจแซงหน้า ซึ่งภาคบริการท่องเที่ยวอาจเป็นคำตอบได้

            การท่องเที่ยวเป็นภาคส่วนหนึ่งซึ่งไทยมีศักยภาพหากมีการพัฒนาทั้งโครงสร้างอย่างเป็นระบบมาเสริมเป็นรายได้แทนการส่งออกซึ่งอนาคตอาจไม่สดใส ขนาดซึ่งยังไม่ได้ทำอะไรมากนักคาดว่าปีนี้นักท่องเที่ยวจะทะลุ 30 ล้านคน คาดว่าในปี 2560 มูลค่าอาจเพิ่มเป็น 2.5 ล้านล้านบาท ขยายตัวได้ร้อยละ 8.7 ในจำนวนนี้เป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติถึง 1.6 ล้านล้านบาท หรือเท่ากับรายได้จากการส่งออกไปประเทศสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปทั้งปีเลยทีเดียว

            ทั้งนี้หลายประเทศในโลกได้ใช้การท่องเที่ยวเป็นยุทธศาสตร์เป็นรายได้หลักของประเทศ เช่น ประเทศแถบยุโรป เช่นประเทศฝรั่งเศส อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ สเปน ฯลฯ รายได้จากการท่องเที่ยวมีมูลค่ามากกว่ารายได้จากภาคอุตสาหกรรม กรณีของไทยมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายติดลำดับโลกหลายแห่ง เช่น พัทยา ภูเก็ต พังงา สมุย ฯลฯ ในด้านวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์แหล่งท่องเที่ยวที่จัดเป็นมรดกโลก เช่น อยุธยา สุโขทัย ขณะที่เชียงใหม่ เป็นเมืองในฝันของนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและยุโรป สำหรับ กทม.เป็นสวรรค์ของนักช๊อปปิง อีกทั้งในอนาคตสองสามปีข้างหน้าแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้จะถูกเชื่อมด้วยระบบรถไฟฟ้าความเร็วสูง ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค

            อย่างไรก็ตามการท่องเที่ยวจะต้องมีการปฏิรูปยกเครื่องจัดทำเป็นยุทธศาสตร์เป็นแผนระยะยาวและต่อเนื่อง โดยต้องให้หลุดจากกับดักซึ่งไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวราคาถูกทำให้ได้นักท่องเที่ยวซึ่งไม่ค่อยมีคุณภาพ การที่จะยกระดับการท่องเที่ยวให้เทียบเคียงกับญี่ปุ่นและประเทศแถบยุโรปตะวันตกต้องทำอย่างบูรณาการเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ด้านกระทรวงท่องเที่ยวฯ ควรให้ชัดว่าจะทำเฉพาะท่องเที่ยวเป็นหลักโดยให้ด้านการกีฬาไปอยู่กับกระทรวงวัฒนธรรมหรือกระทรวงศึกษาธิการจะดีไหม ซึ่งการท่องเที่ยวจะต้องยกระดับเทียบเคียงกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้ขับเคลื่อนสร้างรายได้อย่างเป็นระบบ

            ขณะที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวของเอกชนจะต้องยกมาตรฐานของไกด์ รวมทั้งโรงแรม ร้านอาหาร   ร้านขายของ ต้องมีกฎหมายควบคุมทั้งด้านคุณภาพ-มาตรฐาน การไม่หลอกลวงต้มตุ๋นนักท่องเที่ยว อีกทั้งต้องเอาจริงกับไกด์-ทัวร์เถื่อนและนักท่องเที่ยวซึ่งแฝงตัวเข้ามาค้าขายหรือทำตัวเป็น มาเฟียธุรกิจด้านท่องเที่ยวทำให้ไทยเสียชื่อ ซึ่งเรื่องนี้ก็รู้กันดีแต่ก็ยังไม่เอาจริงเอาจัง?..จริงไหมครับ

(สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ทางเว็บไซต์  www.tanitsorat.com หรือ www.facebook.com/tanit.sorat)

*****************************


ไฟล์ประกอบ : ยกเครื่องท่องเที่ยว ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ.doc
อ่าน : 1507 ครั้ง
วันที่ : 19/04/2016

Contact : V-SERVE GROUP 709/54-55 ถ.สุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง  กทม. 10250 โทรศัพท์. 0 2332 3940-9 โทรสาร. 0 2332 0754
E-mail: tanit@v-servegroup.com