เมื่อเมียนมาร์...ได้ประธานาธิบดีคนใหม่

โดย  ดร.ธนิต  โสรัตน์

รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย

วันที่ 21 มีนาคม 2559

            ขณะที่ประเทศไทยกำลังสาละวนกับร่างรัฐธรรมนูญ (รธน.) แต่สำหรับเมียนมาร์ซึ่งได้มีการเลือกตั้งไปก่อนหน้านั้น โดยพรรคเอ็นแอลดี ซีกตรงข้ามรัฐบาลชนะแบบถล่มทลายแต่ด้วยความแยบยลของรัฐธรรมนูญ ทำให้นางออง ซาน ซูจี ไม่สามารถเป็นประธานาธิบดีและในที่สุดได้นายอู ถิ่น จอ เข้ามาเป็นผู้นำ ขณะที่ไทยการเมืองยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนถ่ายจากระบอบทหารไปสู่ประชาธิปไตยตามหลังเมียนมาร์อยู่หลายขุม

            เป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่า รธน. เมียนมาร์ซึ่งใช้เวลาร่างกว่า 16 ปี ได้ถูกออกแบบให้ฝ่ายความมั่นคงยังเป็นผู้ครอบงำการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง เช่น ให้ สส. (สภาปีตูลูต) และให้ผู้แทนจากสภาชาติพันธุ์หรือ สว. เป็นโควต้าของทหารร้อยละ 25 และหากก๊อกแรกพลาดยังมีบทบัญญัติล็อคสเปคไม่ให้นาง     ออง ซาน ซูจี มีโอกาสเป็นประธานาธิบดี ถึงแม้คนใกล้ชิดอย่างนายอู ถิ่น จอ ซึ่งเป็นประธานาธิบดีรัฐธรรมนูญก็ให้ตัดขาดจากพรรค อีกทั้งโควต้า รมว.กระทรวงความมั่นคง ทั้งกลาโหม มหาดไทย กิจการชายแดน เป็นตำแหน่งที่ ผบ.สูงสุด เป็นผู้แต่งตั้งโดยตรง ต้องยกนิ้วให้ผู้ร่าง รธน.ของเมียนมาร์ว่าสุดยอดจริงๆ

            ถามว่าคนเมียนมาร์รู้สึกอย่างไรกับผู้นำคนใหม่ ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นคนดี ไม่โกง มือสะอาด แต่เรื่องประสบการณ์และฝีมือการทำงานเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขณะที่นักธุรกิจ ? นักลงทุน มีความกังวลเกี่ยวกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งนี้คนเมียนมาร์ยังไม่ค่อยสบายใจกับการที่ผู้นำของเขาจะเป็นหุ่นเชิดไม่เป็นตัวของตนเอง

            อย่างไรก็ตามโดยภาพรวมคนเมียนมาร์พอใจกับรัฐบาลใหม่และชื่นชอบนางออง ซาน ซูจี  เห็นจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาทั้งคนเมียนมาร์และกลุ่มชาติพันธุ์ในรัฐต่างๆ ปรองดอง-สมานฉันท์ ถล่มพรรครัฐบาลจนแพ้หลุดลุ่ย ประชาชนคนเมียนมาร์เห็นตรงกันว่าเขาเบื่อและต้องการหลุดพ้นจากระบอบเดิม ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงในวิถีที่พวกเขามีส่วนกำหนด ที่ว่านี้เป็นการเมืองและความเห็นของคน   เมียนมาร์ล้วนๆ....นะครับ (สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ทางเว็บไซต์ www.tanitsorat.com หรือ www.facebook.com/tanit.sorat)

*****************************