บทความเรื่อง :: RFID Solution for Industry Sector
 


RFID Solution for Industry Sector

โดยธนิต โสรัตน์

ประธานกรรมการ V-SERVE GROUP

          RFID หรือ Radio Frequency Identification จัดเป็นนวัตกรรมใหม่ในการประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศให้สามารถขับเคลื่อนกระบวนการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน ให้เกิดประสิทธิภาพในการเคลื่อนย้ายข้อมูลเพื่อก่อให้เกิดกระบวนการไหลลื่นของการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการ การรวบรวม การจัดเก็บ และการกระจายสินค้า ตั้งแต่ระดับอุตสาหกรรมต้นน้ำ ไปสู่อุตสาหกรรมต่อเนื่อง จนสินค้านั้นได้มีการเปลี่ยนสภาพเป็นสินค้าสำเร็จรูป และได้มีการส่งมอบไปจนถึงผู้บริโภค ปัญหาของการจัดการระบบโลจิสติกส์ที่ผ่านมา ก็คือการบ่งชี้สถานภาพของตัวสินค้า รายละเอียดของสินค้าและสถานะการส่งมอบ ถึงจะมีระบบอิเล็กทรอนิกส์เข้ามา ก็จำเป็นต้องอาศัยการทำงานของคน ซึ่งนอกจากการทำให้มีความล่าช้าและยังก่อให้เกิดการผิดพลาดในลักษณะที่เป็น Human Error ในช่วงเวลาที่ภาคอุตสาหกรรมกำลังได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้น (Cost Push) อันเกิดจากวิกฤติราคาน้ำมัน การลงทุนในระบบ RFID จึงจะเป็นทางเลือกหนึ่งในการที่จะลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและภาคการค้าปลีก

          RFID คือ ระบบเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการคำนวณ และการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งส่งกำลังด้วยคลื่นแม่เหล็ก หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แทนการสัมผัสทางกายภาพ โดยมีการคาดการณ์กันว่าเทคโนโลยีดังกล่าว จะเข้ามามีบทบาทในการดำเนินธุรกิจ และการใช้ชีวิตประจำวันในระดับเดียวกับเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ ,อี-คอมเมิทสร์            (e-commerce) เช่น การค้าปลีก ,การค้าส่ง ,การผลิต ,การรักษาความปลอดภัย ,การทดแทนระบบบาร์โค้ด บัตรพนักงาน และบัตรโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน เป็นต้น คาดการณ์ในปี 2551 ตลาดทางด้าน RFID จะมีมูลค่ารวมกันทั่วโลกสูงถึง 124,000 ล้านบาท

          อาร์เอฟไอดีช่วยให้องค์กรสามารถติดตามลำดับที่มาของสินค้าหรือช่วยด้านการระบุอายุใช้งานได้ แอปพลิเคชั่นด้านการติดตามสามารถช่วยเพิ่มความสามารถให้กับอาร์เอฟไอดีได้ด้วยการปรับปรุงข้อมูลสินค้าสามารถเก็บหมายเลขไอดีสินค้าและมีหน่วยความจำเพิ่มเติมสำหรับบันทึกข้อมูลอื่นๆ ข้อมูลต่างๆ จะใช้เป็นพื้นฐานในการติดตามและระบุลำดับที่มาของสินค้า ช่วยส่งเสริมการบริการ การดำเนินการส่งกลับและส่งคืนสินค้า  (Reverse Logistics) ป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น โดยสามารถยืนยันได้ว่าสินค้าถูกส่งไปยังสถานที่ที่ถูกต้อง (Right Place) นอกจากนี้ RFID ยังช่วยให้การสำรองวัตถุดิบหรือสินค้า ช่วยให้องค์กรไม่จำเป็นต้องเก็บสต๊อกสินค้าไว้มากเกินจำเป็น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บวัตถุดิบและสินค้า รวมถึงค่าเช่าพื้นที่ในการจัดเก็บและช่วยลด Inventory Carring Cost ซึ่งเป็นต้นทุนกว่าร้อยละ 47 ของต้นทุนรวมโลจิสติกส์

 

 

          RFID จะเห็นได้ว่าเป็นระบบอัจฉริยะภายใต้ Nano Technology ที่กำลังจะมีบทบาทเข้ามาแทนที่ระบบบาร์โค้ด หรือได้ใช้มาตั้งแต่ปี 1970 โดยระบบใหม่นี้จะใช้ระบบคลื่นของความถี่วิทยุ มาช่วยในการอ่านรหัสและข้อมูลของสินค้าหรือข้อมูลของฉลากได้โดยไม่ต้องมีการสัมผัส ในขณะที่สินค้ายังเคลื่อนไหวพร้อมกันได้คราวละหลายชิ้น (Tag) โดย RFID จะสามารถอ่านข้อมูลได้รวดเร็ว ด้วยความเร็วสูง 50 ชิ้นต่อนาที และยังสามารถอ่านค่าของสินค้านั้นได้แม้จะอยู่ในระยะไกล โดยส่วนประกอบใน RFID จะมีส่วนประกอบหลักๆสำคัญ คือ Tag หรือฉลาก ซึ่งจะติดอยู่กับตัวสินค้า โดยฉลากหรือ Tag จะมี Transceiver ซึ่งจะเป็นเครื่องอ่าน (Reader) โดยหน้าที่หลักของเครื่องอ่านจะสามารถเชื่อมต่อด้วยคลื่นวิทยุ ซึ่งมีทั้งการรับ-ส่งสัญญาณวิทยุและส่งต่อไปยังคอมพิวเตอร์ในการถอดรหัสสินค้า Decoding โดยระบบ RFID ในปัจจุบันได้รับการพัฒนาไปมากจนถึงขั้นที่เป็น RFID จะมี Digital Chip ซึ่งมีขนาดเล็ก แต่มีขีดความสามารถในการเก็บข้อมูล และส่งสัญญาณวิทยุแม้แต่ในที่ปิดทึบ โดยสามารถนำไปใช้ร่วมกับระบบ XML / Internet ก็สามารถที่จะถอดรหัสทางไกลเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ปลายทาง ทำให้ผู้รับสินค้าสามารถรู้ล่วงหน้าถึงรายละเอียดของสินค้า , แหล่งที่ผลิต และสินค้ากำลังขนส่งอยู่ตรงส่วนใดของโลก รวมถึงคุณสมบัติอื่นๆ ซึ่งระบบบาร์โค้ดทำไม่ได้ ซึ่งด้วยคุณสมบัติเหล่านี้จะเป็นนวัตกรรมในการสนับสนุนระบบโลจิสติกส์และซัพพลายเชนโดยการเพิ่มประสิทธิภาพของการส่งและรับข้อมูลข่าวสาร รวมถึงระบบที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย (Security and Access Control) ในการขนส่งสินค้าข้ามประเทศ โดยเฉพาะประเทศซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการก่อการร้ายข้ามประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา , สหภาพยุโรป ฯลฯ  ดังนั้น การส่งสินค้าออกด้วยระบบตู้คอนเทนเนอร์ในอนาคตอันสั้นๆ นี้ ระบบ RFID จะเข้ามามีบทบาทในฐานะเป็น Electronic Seal ซึ่งติดอยู่ที่ตู้คอนเทนเนอร์ในการแสดงสถานะ (Status) ซึ่งจะทำให้ผู้รับสินค้าและผู้ส่งสินค้าสามารถใช้ในการติดตาม Tracking การเดินทางของสินค้าในระยะทางไกล เช่น การขนส่งสินค้าทางเรือระหว่างประเทศ


ไฟล์ประกอบ 173_RFIDSolutionfo IndustrySector.pdf


วันที่ 24-07-2008  

 
หน้าหลัก